Blogger นี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีอาจารย์เหมราช ธนะปัทม์ เป็นผู้สอน

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554


9 วิธีดูแล สุขภาพในยุคปัจจุบัน



 1. เคลื่อนไหวเสียบ้าง
 ให้หมั่นหาโอกาสที่จะได้เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง ทางที่ดีให้เลือกที่จะใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟท์ถ้าจุดหมายที่เราจะไปมันมีไม่กี่ชั้น แถมยังเป็นการช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย ถ้าที่บ้านเลี้ยงสุนัขก็ให้พาสุนัขไปเดินเล่นก็จะเป็นการออกกำลังกายทั้งคนทั้งสุนัข หรือคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยซนก็หมั่นวิ่งเล่นไล่จับกับเด็กๆ เป็นการดีทั้งคุณแม่คุณลูก รวมทั้งกิจกรรมอื่นอย่างโยนลูกบอล หรือกิจกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้คุณได้ยืดแข้งยืดขา การเคลื่อนไหวออกกำลังกายไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องไปทำที่ฟิตเนสเท่านั้น(Fitness) แต่การดำเนินชีวิตธรรมดาทั่วไปก็มีโอกาสที่เราจะออกกำลังกายได้เช่นกัน แถมบางกิจกรรมยังเป็นการได้กระชับมิตรอีกด้วยนะจะบอกให้ กิจกรรมที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นเป็นกิจกรรมที่ไม่มีข้อจำกัดทางด้านเวลา ไม่เหมือนกับการเข้าฟิตเนส ที่จะต้องมีจำกัดเวลาอย่างเช่น ทำท่าลุกนั่ง 45 ครั้ง หรือต้องอยู่ในห้องยิมวันละ 45 นาที หรือการลงคอร์สเรียนแอโรบิคแดนซ์ ลงเรียนมวยไทย การเข้าทำกิจกรรมเป็นคอร์สที่ต้องมีการจำกัดเวลาเช่นนี้ เทียบไม่ได้เลยกับการที่เราจะมีอิสระในการเคลื่อนไหวโดยที่ไม่มีข้อผูกมัดทางด้านเวลา อย่างเช่นหาเวลาเล่นวิ่งไล่จับกับลูกๆ เป็นต้น

  2. มันไม่เกี่ยว
ใครที่ชื่นชอบของทอดมันๆ ก็ควรคิดที่จะลดๆ บ้างได้แล้ว อาหารที่เราก็รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น เฟร้นช์ ฟราย์ทอดร้อนๆ ,แฮมเบอร์เกอร์ และเนื้อติดมัน (จำพวกเนื้อหมู เบคอน แฮม ซาลามี ซี่โครงสัตว์ และไส้กรอกและอาาหารประเภทนมอย่างเนยแข็ง นมสด และครีม ก็ควรที่จะเลือกแบบไขมันต่ำ อาหารประเภทถั่วและแซนด์วิชไส้เนื้อ มายองเนส มาการีน บัตเตอร์ครีมหรือบัตเตอร์ซอสก็ควรที่จะบริโภคแบบจำกัดนิดนึง ไม่ใช่บริโภคเสียจนมากเกินไปแทนที่จะเป็นประโยชน์ก็จะกลับกลายเป็นโทษ แต่ปัจจุบันนี้ผู้คนให้ความใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ผู้ผลิตเล็งเห็นถึงจุดนี้จึงได้ผลิตอาหารประเภทดังกล่าวออกมาให้เป็นแบบไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน เช่นครีมบัตเตอร์ไขมันต่ำเนยแข็งปราศจากไขมัน และมายองเนสปราศจากโคเรสโตรอล เป็นต้น ฉะนั้นแล้วเราในฐานะผู้บริโภคก็ควรที่ใส่ใจซักนิดก่อนที่จะซื้อหาอะไรมารับประทาน อะไรที่รับประทานแล้วเกิดประโยชน์กับสุขภาพมากที่สุดก็ให้เลือกหยิบฉวยสิ่งนั้นเลย
  



3. หยุดทำร้ายคนรอบข้างและตัวเองโดยการหยุดสูบ
ตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมา ทีมแพทย์ได้ประกาศออกมาว่าการสูบเป็นอันตรายอย่างมากต่อสุขภาพ ชาวอเมริกันลดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาสูบที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของชาวอเมริกัน เมื่อไม่นานมานี้การสูบบุหรี่เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในหมู่วัยรุ่น มีข้อสันนิษฐานกันว่าเป็นเพราะพวกเขาได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์และสื่อต่างๆของฮอลิวูด ซึ่งดูเหมือนว่าการสูบบุหรี่จะมีให้เห็นในสื่อเหล่านี้ค่อนข้างสูง กลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับตัวละคร ใครที่สูบบุหรี่อยู่ก็ให้เห็นแก่เด็กๆ หรือคนที่คุณรัก พยายามลดละเลิกเสียให้ได้ตั้งแต่วันนี้ และระมัดระวังในการเลือกสื่อให้แก่บุตรหลานก็จะเป็นวิธีเบื้องต้นในการป้องกันพวกเขาให้ห่างไกลจากสิ่งที่เรียกว่า “บุหรี่” ได้บ้างไม่มากก็น้อย

  
4. ลดความเครียด 
จริงคำพูดที่ว่า “พยายามอย่าเครียด” มันก็พูดง่ายทำยาก ใครที่ไม่ได้ประสบพบเจอกับความเครียดก็คงไม่รู้และไม่เข้าใจหรอกว่ามันเป็นอย่างไร ความเครียมันก็มีหลายรูปแบบ เวลาเกิดความเครียดขึ้นมาก็มีบางคนพูดว่าให้คิดในแง่บวกไว้ก่อน บ้างก็แนะนำให้ใช้เวลาซัก 30 นาทีต่อวันทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ เช่นอาบน้ำด้วยครีมอาบน้ำยี่ห้อที่เราชื่นชอบ กลิ่นที่เราโปรดปรานมากๆ หรือบ้านใครอยู่ใกล้ทะเลสวยใสก็ลงไปเดินเล่นริมหาด อ่านหนังสือเล่มโปรด เยี่ยมเยียนเพื่อนเล่นกับน้องหมาสุดที่รัก ฟังเพลงจังหวะผ่อนคลาย ดูหนังตลก หรือไม่ก็ไปทำผมให้ดูดีขึ้นกว่าเก่า ไปเข้าคอร์สนวดหน้านวดตัว 
และบางครั้งก็ให้ลองมองย้อนไปในครั้งที่เรายังไม่เจอความเครียด เลือกนึกถึงตอนที่เรายังอยู่ในอารมณ์ที่ดีหรือเจอเหตุการณ์ดีๆ ช่วงที่เราเครียด ให้เราอยู่ห่างจากบุคคลที่น่าเบื่อหน่ายถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรที่จะอยู่ใกล้บุคคลเหล่านั้นในช่วงเวลาที่เราเองก็อ่อนแอ เพราะเดี๋ยวจะพลอยเครียดหนักยิ่งกว่าเดิม อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้อารมณ์เบิกบานขึ้นมาได้บ้างก็คือนึกถึงวันที่อากาศดี แจ่มใส เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว นึกถึงแสงแดด สายลมอ่อนๆ และเคลิบเคลิ้มไปกับมัน




5. ปกป้องตัวเองจากมลพิษ 
ถ้าคุณไม่สามารถที่จะอยู่ในสถานที่ๆ ปลอดมลภาวะได้อย่างแท้จริงแล้วล่ะก็ อย่างน้อยก็ให้หลีกเลี่ยงบริเวณเหล่านี้ได้ก็ยังดี เช่นห้องที่เต็มไปด้วยควันบุหรี่ พื้นที่ๆ มีการจราจรติดขัด พื้นที่สำหรับคนสูบุหรี่ และการออกกำลังในสถานที่ๆ มีการสัญจรพลุกพล่าน หากเราต้องการจะออกกำลังกายกลางแจ้งเราก็ต้องเลือกเวลาที่ปริมาณหมอกควันได้เบาบางลงไปแล้ว แต่หากไม่ชอบที่จะออกกำลังกายกลางแจ้งไม่ว่าจะกลัวผิวเสียหรือว่าขี้เกียจเราก็สามารถเลือกที่จะออกกำลังกายในร่มได้ แต่มีข้อแม้ว่าระบบจัดการอากาศภายในจะต้องมีประสิทธิภาพ เครื่องปรับอากาศต้องให้อากาศที่สะอาดจริงๆ ไม่มีไรฝุ่น ควรทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศให้สะอาดโดยเฉพาะตัวกรองฝุ่น จะได้ไม่ต้องอุดอู้อยู่ในห้องแคบๆ อากาศสกปรก 
หากที่บ้านมีพื้นที่รอบบริเวณบ้าน แนะนำว่าควรปลูกพุ่มไม้เตี้ยๆ ให้รอบพื้นที่สวน เพราะพุ่มไม้เหล่านั้นจะช่วยดูดซับมลพิษทางอากาศและความสกปรกที่มาจากฝุ่นละอองตามท้องถนนได้อีกด้วย ปริมาณความสกปรกและฝุ่นก็จะได้เข้าสู่ภายในบ้านน้อยลงกว่าปกติอีกด้วย



6. คาดเข็มขัดนิรภัยด้วย 
มีสถิติแสดงให้เห็นว่าการคาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถหรือโดยสารในอยู่ในรถจะช่วยลดอัตราการบาดเจ็บเวลามีการประทะกันเกิดขึ้น ช่วยต่อลมหายใจให้กับชีวิตขึ้นมาได้อีกหลายเปอร์เซ็นต์

  
7. มาใช้ไหมขัดฟันกันเถอะ 
มีการศึกษาพบว่าการใช้ไหมขัดฟันนั้นมีส่วนช่วยยืดอายุของฟันให้ยืนยาว ไมมีใครทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด อาจเป็นเพราะว่าสารที่เคลือบไว้บนเส้นไหมขัดฟันมีส่วนช่วยทำให้ฟันมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ไหมขัดฟัน รู้อย่างนี้แล้วเราก็มาเริ่มต้นใช้ไหมขัดฟันกันเถอะ



8. เลิกเถอะการเป็นนักดื่มจัดจ้าน
การดื่มไวน์วันละหนึ่งแก้ว (หรือสองแก้วสำหรับผู้ชายจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ แต่ว่าถ้าหากเกินกว่านี้ประโยชน์ที่ควรจะรับก็จะกลายเป็นโทษไป เช่นโรดตับ โรคไต และโรคมะเร็ง ฉะนั้นจำไว้ว่าไวน์ขวดหนึ่งควรกินให้ได้นานๆ ไม่ใช่กินวันละสามสี่แก้วจนขวดหนึ่งก็ไม่พอละกันนะจ้ะ

  
9. คิดในแง่บวกให้มากขึ้น 
สุขภาพจิตที่ดีส่งผลให้สุขภาพร่างกายพลอยแข็งแรงไปด้วย การมองชีวิตในแง่ดีทำให้มีชีวิตที่เบิกบาน การร้องเพลงหรือยิ้มแย้มอยู่เสมอจะช่วยให้เรามีความสุขขึ้นมาได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น